พุทธชาติ เชื้อไทย อดีตรองนายก อบจ.สมุทรปราการ ฉลองวันเกิดวันเดียวกับภรรยา ณิชากร เชื้อไทย สมาชิกสภาเทศบาลตำบลบางปู 20 มิถุนายน 2568 ณ สถานตากอากาศบางปู เจ้าตัวยืนยันไม่มีนัยยะทางการเมือง
โดยได้รับเกียรติจากท่านนายกสุนทร ปานแสงทอง นายกอบจ.สมุทรปราการ ให้เกียรติมาเป็นประธานในการกล่าวอวยพร ซึ่งภายในงานประกอบด้วย แขกผู้มีเกียรติมากมาย อาทิ เช่น พลตำรวจเอกวิรุฬ เอี่ยมไพจิตร์ (ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ) พลตำรวจโทเผ่าไทย ทองธิว คุณทองทิว วิริยะพันธุ์ กรรมการและผู้บริหาร เมืองโบราณ นายจรูญ ยังประภากร กรรมการบริหาร บริษัท ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ จำกัด ท่านสรศักดิ์ จิรธรรมประดับ (อดีตนายกสมาคมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย) ดร.ยงยุทธ สุวรรณบุตร อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 2 จังหวัดสมุทรปราการ ท่านอัครวัฒน์ อัศวเหม (รองนายก อบจ.สมุทรปราการ)ท่านวรพร อัศวเหม (รองนายก อบจ.สมุทรปราการ) ท่านต่อศักดิ์ อัศวเหม (รองนายก อบจ.สมุทรปราการ)
ท่านพิพัฒน์ วรสิทธิดำรง (นายกสมาคมข้าราชการและพนักงานจ้างท้องถิ่น แห่งประเทศไทย) นายกองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ,สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด และแขกผู้มีเกียรติอีกหลายท่าน คุณพุทธชาติ เป็นนักการเมืองชาวสมุทรปราการ ซึ่งเกิดและเติบโตในย่านปากน้ำ จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยรามคำแหงด้านพลศึกษา หลังจากนั้นจึง เดินสายเข้าสู่การทำงานในแวดวงการเมือง พร้อมกับการเรียนปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยบูรพา หลักสูตรรัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชานโยบายสาธารณะ ซึ่งมุ่งเน้นการศึกษาเกี่ยวกับทฤษฎีและการปฏิบัติในการบริหารประเทศรวมถึงการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับนโยบายสาธารณะและการจัดการภาครัฐ และได้ทำงานการเมืองอย่างต่อเนื่อง มาเป็นเวลา ยาวนานมากกว่า 30 ปี
โดยคุณพุทธชาติได้กล่าวว่า ผมเป็นคนที่เกิดและเติบโตอยู่ที่ปากน้ำ เป็นชาวสมุทรปราการในสายเลือด รถผมทุกคันยังเป็นป้ายทะเบียนสมุทรปราการ (หัวเราะ) ฉะนั้นผมทั้งรักและมีความหวังให้สมุทรปราการนั้นเจริญยิ่งๆขึ้นไป และหวังว่า จะทำให้พี่น้องชาวสมุทรปราการของพวกเรา กินดีอยู่ดีและมีความสุข “ถ้าให้พูดถึงจังหวัดของเราสมุทรปราการ ผมว่าจุดเด่นอยู่ที่ความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต การเดินทางของเราสะดวก ไปไหนมาไหนมีถนนเข้าถึงทุกที่ ทางน้ำแล้วก็มีท่าเรือ เรามีรถไฟฟ้าที่เป็นการขนส่งสาธารณะที่ผมมองว่าดีที่สุดแล้วตอนนี้ ยังไม่พอเรายังมี บนฟ้าอีก เพราะสนามบินสุวรรณภูมิก็อยู่ในจังหวัดของเรา เส้นใหญ่เป็นอันดับต้นๆในเอเชีย ซึ่งเร็วๆนี้ก็จะมีสนามกีฬาประจำจังหวัด หรือสนามกีฬาบางปลา ที่กำลังจะเปิดใช้งานอีก ซึ่งตัวผมเองก็จบด้านพลศึกษามาด้วย ผมเองก็อยากเห็นการกีฬาของจังหวัดสมุทรปราการกลายเป็นจุดเด่นอีกจุดหนึ่งของจังหวัดของเรา เพราะว่าผมเห็น นักกีฬา ของจังหวัดเราหลายๆคนมีความสามารถมาก แต่ก็ต้องไปเล่นให้กับทาง สโมสรต่างๆในกรุงเทพฯ เนื่องจากสมุทรปราการของเราก็มีข้อจำกัด ในเรื่องของสถานที่ในการซักซ้อม และการสนับสนุนต่างๆ แต่ว่าทาง อบจสมุทรปราการ ณ เวลานี้เอง ก็กำลังสนับสนุนและพัฒนาในด้านนี้ ซะงั้นก็เป็นสิ่งที่ผมอยากจะเห็น และอยากให้ประสบความสำเร็จ ให้นักกีฬาของเราเนี่ย เล่นอยู่ในจังหวัด แล้วก็นำพาชื่อเสียงมาให้สมุทรปราการของเรา”
คุณพุทธชาด ยังกล่าวต่อ ตัวผมเอง ก็บอกว่าตัวเองเป็น คนที่มีอิทธิพลระดับหนึ่ง แต่เป็นอิทธิพลในด้านของการทำความดี ช่วยเหลือชาวบ้าน และพัฒนาชุมชนต่างๆให้อยู่ดีมีความสุข โดยที่งานวันเกิดในครั้งนี้ เป็นการ จัดเลี้ยงแบบส่วนตัว ไม่ได้มีนัยยะอะไร เป็นเพียงแค่ เพื่อนๆที่อยู่ใน แวดวงที่ผม คลุกคลีด้วย ส่วนมากก็จะเป็นในทาง สายการเมืองซะเยอะ สำหรับ การจะทำงานใน ฐานะนักการเมืองนั้น ส่วนตัวผมเองก็คลุกคลีอยู่ใน สายงานการเมืองตั้งแต่ อายุ 20 ต้นๆ จนมาถึงตอนนี้ก็ 30 กว่าปี ผมคิดว่าสิ่งสำคัญ คุณต้องมีใจรักก่อน เข้ามาด้วยใจก่อน แล้วจะต้องมีความพร้อมทั้งเวลาและการเงิน เพราะการเป็นนักการเมือง ไม่ว่าจะ ทำกิจกรรมใด ก็ย่อมจะมีค่าใช้จ่ายจิปาถะ คนที่มาทำงานกับเรา ผมก็อยากดูแลทุกๆคน ไม่ใช่ขอให้มาทำงานอย่างเดียว ก็ต้องดูแลพวกเขาด้วย เพราะเราเป็นผู้นำ เราต้องเป็นคนที่มีน้ำใจและใจกว้าง สรุปคือเราต้องมีใจ มีเงิน มีเวลา และที่สำคัญต้องมีเพื่อน เพราะการเป็นนักการเมืองจะได้มาก็มาจากการเลือกตั้ง เวลาที่เราเลือกตั้งอะไรก็ตาม เราก็ต้องแข่งกับคนที่มีความพร้อมเช่นกัน เพราะฉะนั้น ยิ่งมีเพื่อน หรือ Connection มาเท่าไหร่ยิ่งดี”
